ขอลบนะค่ะ

ไม่ใช่สะใภ้ห้องนี้นะ แต่แนะนำเพิ่มเติมตามการขอวีซ่าเยี่ยมเยือน (เชงเก้น) 

Originally posted by mymelody <font size="3" color="#0000ff">ไม่ใช่สะใภ้ห้องนี้นะ แต่แนะนำเพิ่มเติมตามการขอวีซ่าเยี่ยมเยือน (เชงเก้น)  <font size="3" color="#0000ff">คือ นอกเหนือจากใน list ที่เขากำหนด ส่วนใหญ่จะมีเพิ่มเติม <font size="3" color="#0000ff">-เอกสารแสดงความสัมพันธ์ว่าเป็นแฟนกัน อาจจะเพิ่มเติมโดยให้แฟนเขียนจดหมายแนะนำตัวประมาณว่ารู้จักกันยังไง คบกันยังไง แล้วทำไมถึงอยากเชิญเราไป แล้วทำไมถึงให้แม่แฟนเป็นคนเชิญ แล้วก็อาจจะเพิ่มพาสปอร์ตแฟนที่เป็นหน้าที่แฟนเดินทางมาไทย คือให้สถานทูตเห็นว่าคนๆนี้คือแฟนเรา  <font size="3" color="#0000ff"> <font size="3" color="#0000ff">-โดยทั่วไปการขอวีซ่าเยี่ยมเยือน (หรือท่องเที่ยว) ไม่ต้องแปล  <font size="3" color="#0000ff"> <font size="3" color="#0000ff">-แต่สิ่งที่เน้นมากๆ จริงคือหลักฐานการกลับมาของเรา ไม่รู้ว่า จขกท ทำอะไรอยู่เรียนหรือว่าทำงาน ถ้าเรียนก็ใช้ใบรับรองจากสถานศึกษา แต่ถ้าทำงานก็ใช้ใบลางาน หลายๆคนอาจจะไม่ได้ทำงาน หรือเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเราจะกลับมาเมืองไทยแน่นอนเขาก็เพิ่มเติมเอกสาร อันไหนที่เป็นทรัพย์สินของเราน่ะ เช่น มีบ้าน มีที่ดิน หรือบางคนมีลูกก็ใช้เอกสารของลูกช่วยยืนยันว่าเราจะกลับมาแน่นอน เลยทำให้ดูว่ามีเอกสารเยอะกว่าใน list <font size="4" color="#ff0000">**การขอเชงเก้นวีซ่าแบบเยี่ยมเยือน เขาเน้นที่ความสัมพันธ์กับคนเชิญ เราก็ต้องแสดงความสัมพันธ์ให้สถานทูตเห็น และเอกสารการกลับมา เพราะฉะนั้นถ้าสองสิ่งนี่แน่นก็ไม่มีปัญหาค่ะ เรื่องเงินในบัญชีมีไม่เยอะไม่สำคัญ

ไม่ได้ทำงานค่ะอยู่บ้านดูแลลูก

Edited by potato rey - 16 Apr 2013 at 11:05

Originally posted by potato rey Originally posted by mymelody <font size="3" color="#0000ff">ไม่ใช่สะใภ้ห้องนี้นะ แต่แนะนำเพิ่มเติมตามการขอวีซ่าเยี่ยมเยือน (เชงเก้น)  <font size="3" color="#0000ff">คือ นอกเหนือจากใน list ที่เขากำหนด ส่วนใหญ่จะมีเพิ่มเติม <font size="3" color="#0000ff">-เอกสารแสดงความสัมพันธ์ว่าเป็นแฟนกัน อาจจะเพิ่มเติมโดยให้แฟนเขียนจดหมายแนะนำตัวประมาณว่ารู้จักกันยังไง คบกันยังไง แล้วทำไมถึงอยากเชิญเราไป แล้วทำไมถึงให้แม่แฟนเป็นคนเชิญ แล้วก็อาจจะเพิ่มพาสปอร์ตแฟนที่เป็นหน้าที่แฟนเดินทางมาไทย คือให้สถานทูตเห็นว่าคนๆนี้คือแฟนเรา  <font size="3" color="#0000ff"> <font size="3" color="#0000ff">-โดยทั่วไปการขอวีซ่าเยี่ยมเยือน (หรือท่องเที่ยว) ไม่ต้องแปล  <font size="3" color="#0000ff"> <font size="3" color="#0000ff">-แต่สิ่งที่เน้นมากๆ จริงคือหลักฐานการกลับมาของเรา ไม่รู้ว่า จขกท ทำอะไรอยู่เรียนหรือว่าทำงาน ถ้าเรียนก็ใช้ใบรับรองจากสถานศึกษา แต่ถ้าทำงานก็ใช้ใบลางาน หลายๆคนอาจจะไม่ได้ทำงาน หรือเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเราจะกลับมาเมืองไทยแน่นอนเขาก็เพิ่มเติมเอกสาร อันไหนที่เป็นทรัพย์สินของเราน่ะ เช่น มีบ้าน มีที่ดิน หรือบางคนมีลูกก็ใช้เอกสารของลูกช่วยยืนยันว่าเราจะกลับมาแน่นอน เลยทำให้ดูว่ามีเอกสารเยอะกว่าใน list <font size="4" color="#ff0000">**การขอเชงเก้นวีซ่าแบบเยี่ยมเยือน เขาเน้นที่ความสัมพันธ์กับคนเชิญ เราก็ต้องแสดงความสัมพันธ์ให้สถานทูตเห็น และเอกสารการกลับมา เพราะฉะนั้นถ้าสองสิ่งนี่แน่นก็ไม่มีปัญหาค่ะ เรื่องเงินในบัญชีมีไม่เยอะไม่สำคัญ   ไม่ได้ทำงานค่ะอยู่บ้านดูแลลูก เงินในบัญชีมีค่ะ ที่ดินก็เพิ่งซื้อ งั้นต้องเอาที่ดินไปแปลเอกสารด้วยใช่ไหมค่ะ คืออยู่บ้านกับลูกแต่เป็นบ้านที่พ่อเขาปลูกให้ลูกเรา เราไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกับลูกแต่เราเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรงเรียนให้ลูกอย่างค่าเทอมหรือค่าเสื้อผ้านะคะ เอกสารของลูกหมายถึงใบเกิดหรือค่าใช้จ่ายค่ะและต้องแปลหรือเปล่า ใน family details ใส่ข้อมูลของลูกด้วย

ขอบคุณ ครอบครัวเลดี้ทุกท่านนะค่ะที่ให้คำแนะนำ
รู้สึกโล่งใจอย่างมาก
ขอให้เลดี้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง นะค่ะ สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ

เพิ่มเติม บัตรประชาชนไม่ต้องแปลค่ะ ของตัวเองไม่ใช่สมาร์ทการ์ดก็ไม่ต้องแปล
เรื่องความสัมพันธ์กับผู้เชิญ ของตัวเองให้แฟนเขียนเป็น holiday plan แล้วเอารูปครอบครัวเค้า ที่เที่ยวแนบมาด้วย และปริ้นท์ภาพถ่ายคู่กะแฟน ประมาณ 6 ภาพค่ะ ว่าเคยเจอกันจริง ตามสถานที่ต่างๆ
แล้วก็สถานะทางการเงิน เอาเอกสารของตัวเองแนบไปหมดเลยค่ะ ถึงแฟนจะออกค่าใช้จ่ายให้แต่ก็อยากแนบค่ะ ให้เค้าเห็นว่าเราสามารถดูแลตัวเองได้นะจ้ะ แต่ของแฟนก็มีแนบนะคะ แล้วที่สำคัญคือ จดหมายรับรองจากที่ทำงาน คือ ชั้นอยากไปเที่ยวแต่ชั้นก็ต้องกลับย่ะ ภาระเยอะจ้า